ฟิสิกส์ 1

บทที่ 1 ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์

ปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น กลางวัน กลางคืน ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เป็นสิ่งที่มนุษย์ให้ความสนใจ และคำตอบซึ่งทำให้มนุษย์พัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผลวิเคราะห์หรือสร้างแบบจำลองเพื่อสร้างเป็นทฤษฎีหลักการหรือกฎมาอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้

ฟิสิกส์เป็นศาสตร์หนึ่งที่อธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น เหตุใดวัตถุจึงตกลงสู่พื้น เหตุใดดวงอาทิตย์จึงมีสีแดงเมื่อจะลับขอบฟ้าเป็นต้น

1.1 ธรรมชาติของฟิสิกส์

ความต้องการแสวงหาความรู้ในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติโดยใช้เหตุผลแทนความเชื่อในยุคสมัยโบราณเรียกความรู้เหล่านี้ว่าปรัชญาทางธรรมชาติซึ่งต่อมาเรียกว่าวิทยาศาสตร์ซึ่งฟิสิกส์ก็เป็นหนึ่งในสาขาของทางวิทยาศาสตร์

ฟิสิกส์มาจากภาษากรีกแปลว่าธรรมชาติในยุคแรก ๆ นั้นจะศึกษาความสัมพันธ์ในการดำรงชีวิตโดยนักฟิสิกส์จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับ การทดลอง การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ผล สรุปผลจากปัญหาที่ได้พบจึงก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อให้การดำรงชีวิตดียิ่งขึ้น

การค้นคว้าหาความรู้ทางฟิสิกส์มี 2 แนวทาง

1 การสังเกต การทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ เพื่อสรุปเป็นแนวคิดหรือหลักการ

2 การสร้างแบบจำลองทางความคิดสรุปเป็นทฤษฎีที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

พัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์

พัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์มีพื้นฐานมาจากการสังเกตการทดลองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยเครื่องมือที่วัดที่ทันสมัยขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้การพัฒนาทฤษฎีหลักการหรือกฎขึ้นมาใหม่เสมอ

นอกจากการสังเกต และการทดลองทางฟิสิกส์ยังได้นำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาใช้หาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณต่าง ๆ ในธรรมชาติด้วยเช่นการสร้างสมการต่าง ๆ

ผลของพัฒนาการทางฟิสิกส์ที่มีต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และพัฒนาเทคโนโลยี

โดยความรู้ทางฟิสิกส์นั้นสามารถประยุกต์ และใช้กับความรู้สาขาอื่น ๆ ในวิทยาศาสตร์ด้วยเช่น เคมี ( โครงสร้างอะตอม ) ชีววิทยาการ ( ถ่ายโอนพลังงาน ) เทคโนโลยีด้านพลังงาน ( ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้า ) เทคโนโลยีด้านการคมนาคม ( การพัฒนาด้านการสื่อสารเช่นโทรศัพท์มือถือ )

จะเห็นได้ว่าความรู้ด้านฟิสิกส์ตั้งแต่อดีตนำมาใช้ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ในชีวิตประจำวัน และต่อมาในสมัยปัจจุบันนำมาสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่มนุษย์ด้วยด้านคือยังมีการพัฒนาต่อไปควบคู่กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี